07 มี.ค. วิธีเลือกที่ตั้งคลังสินค้าที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ

การเลือกที่ตั้งคลังสินค้าก่อนเช่าโกดังสินค้าที่เหมาะสมสามารถสร้างความแตกต่างในประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และผลกำไรของบริษัทได้ การเช่าโกดังสินค้าหรือซื้อคลังสินค้าถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ และการเลือกสถานที่ตั้งที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสามารถของบริษัทในการแข่งขันและให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการเลือกสถานที่ สิ่งสำคัญคือต้องใช้เวลาและพิจารณาเกณฑ์ต่อไปนี้ทั้งหมด จดบันทึก จากนั้นจึงเปรียบเทียบบันทึกของคุณกับตัวเลือกที่มีอยู่ทั้งหมด หลังจากที่ข้อมูลทั้งหมดได้รับการรวบรวมและวิเคราะห์แล้วจึงควรตัดสินใจขั้นสุดท้าย ในบทความนี้เราจะพาไปดูเกณฑ์การคัดเลือก 7 ข้อเพื่อหาที่ตั้งคลังสินค้าที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ข้อควรพิจารณา 7 อันดับแรกเมื่อเลือกที่ตั้งคลังสินค้า

ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ที่ตั้งคลังสินค้าที่ใช้ได้จริง 7 ประการเพื่อช่วยคุณค้นหาตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจ

1. ตรวจสอบว่าอยู่ใกล้กับซัพพลายเออร์มากแค่ไหน

ระยะห่างระหว่างคุณและผู้ขายมีส่วนโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายและความเสี่ยง ยิ่งคุณอยู่ใกล้ บริษัทก็จะประหยัดเงินค่าขนส่งได้มากขึ้น นอกจากนี้ คุณจะลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการหยุดชะงักในการขนส่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินค้าที่เน่าเสียง่าย

ตัวอย่างเช่น หากบริษัทของคุณได้รับสินค้าที่ท่าเรือ โกดังให้เช่าในบริเวณใกล้เคียงมักจะตอบสนองความต้องการได้มากกว่าพื้นที่ไกล ๆ ในทางกลับกัน การรับสินค้าในสถานที่ที่หลากหลายทางภูมิศาสตร์ต้องใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป นั่นคือสิ่งอำนวยความสะดวกหลายแห่งที่อยู่ใกล้กับพื้นที่รับสินค้า ทั้งนี้คุณจะสามารถประหยัดเวลาและเงินได้

2. จัดทำแผนที่ความเป็นไปได้ไปยังสถานที่ตั้งของลูกค้า

ความใกล้ชิดกับลูกค้ามีความสำคัญพอ ๆ กับการใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์ ผู้บริโภคยุคใหม่คาดหวังว่าจะได้รับคำสั่งซื้อโดยเร็วที่สุด แต่ยังคงประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องการขนส่ง ดังนั้นหากธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ คุณจะได้เปรียบทางการแข่งขัน การค้นหาช่องทางการจัดจำหน่ายในบริเวณใกล้เคียงช่วยลดเวลาที่สินค้าใช้ในการไปถึงจุดหมายปลายทางและต้นทุนการขนส่งที่เกี่ยวข้อง

หากลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ให้เลือกเช่าโกดังสำเร็จรูป คลังสินค้า สถานที่จัดเก็บและกระจายสินค้าขนาดเล็กในแต่ละภาค สำหรับฐานลูกค้าทั่วประเทศ การเช่าโกดังสินค้าขนาดใหญ่มักเป็นทางออกที่ดีที่สุด ระยะเวลาในการดำเนินการที่น้อยลงจะสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ในระยะยาว

3. ประเมินการเข้าถึงศูนย์กลางการคมนาคมหลัก

ในกรณีนี้ จะต้องจัดลำดับความสำคัญของรูปแบบการขนส่งหลักที่ใช้ในการรับหรือส่งสินค้า เข้าและออกจากคลังสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางรถ เรือ รถไฟ หรือเครื่องบิน ตัวอย่างเช่น หากสินค้าส่วนใหญ่นำเข้า ส่งออกทางอากาศ คลังสินค้าต้องอยู่ใกล้กับสนามบินมากที่สุด หากเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดคุณควรสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีการเข้าถึงทางหลวงและถนนที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสนามบินได้ง่าย

4. ตรวจสอบสภาพทางหลวง ถนน และการจราจร

นอกจากความใกล้กับศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญแล้ว คุณจะต้องตรวจสอบผลกระทบของสภาพทางหลวง ถนน และการจราจรในท้องถิ่น โดยพิจารณาถึงปริมาณการเข้าออกโดยทั่วไปและเวลาเดินทางที่พลุกพล่าน เนื่องจากการจัดส่งที่ล่าช้าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากความแออัดส่งผลให้ต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีแก่ลูกค้า

สภาพถนนในท้องถิ่นก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน พื้นผิวถนนที่ต่ำกว่ามาตรฐานและถนนที่ได้รับการดูแลอย่างไม่เหมาะสมอาจสร้างปัญหาด้านความปลอดภัยและการเข้าถึงได้ ในทำนองเดียวกัน ให้ประเมินการเข้าถึงเกี่ยวกับสัญญาณไฟจราจร เพราะคลังสินค้าควรอยู่ในตำแหน่งที่ดี มีไฟแดงและรอบเวลาเพียงพอเพื่อช่วยควบคุมและปรับปรุงการสัญจร

5. ตรวจสอบตลาดและปัจจัยในท้องถิ่น

ตามหลักการแล้ว ที่ตั้งคลังสินค้าควรอยู่ใกล้กับพนักงานที่คุณจะร่วมงานด้วย เนื่องจากข้อมูลประชากรของพื้นที่โดยรอบจะส่งผลต่อค่าจ้างที่ต้องจ่ายและความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ หากมีแรงงานที่มีทักษะไม่เพียงพอในพื้นที่ใกล้เคียง ระดับการบริการอาจลดลง และอาจมีค่าใช้จ่ายด้านแรงงานสูงขึ้นเพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด

ข้อควรพิจารณาในท้องถิ่นที่สำคัญอีกสองประการ ได้แก่ ค่าเช่าโกดังสำเร็จรูปและศักยภาพในการจัดงานที่ก่อกวน บางพื้นที่มีการแข่งขันสูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ และการเปรียบเทียบราคาต่อตารางฟุตที่สูงกว่ากับผลประโยชน์ของทำเลโดยรวมถือเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งจูงใจจากรัฐบาลหรือโครงสร้างภาษีที่ดีอาจช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้ ในทำนองเดียวกัน บางภูมิภาคมีศักยภาพในตัวสำหรับเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญ เช่น แผ่นดินไหวและพายุ ซึ่งคุณต้องประเมินความเสี่ยง

6. ประเมินศักยภาพในการสร้างและต้นทุนที่เกี่ยวข้อง

ก่อนที่จะเลือกเช่าโกดังสินค้า ให้พิจารณาศักยภาพของอาคารในการขยายขนาดให้สอดคล้องกับบริษัท ตัวอย่างเช่น การเลือกสถานที่ในพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านมักไม่สามารถขยายได้เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น ทั้งนี้คุณจะต้องใส่ใจอย่างรอบคอบกับความพร้อมใช้งานและต้นทุนของสาธารณูปโภค เพราะธุรกิจสมัยใหม่ส่วนใหญ่ต้องการโซลูชันโทรคมนาคมที่แข็งแกร่งและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วที่ต้องการ 

7. รู้กฎและข้อบังคับ

เหตุการณ์สภาพอากาศไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่สามารถส่งผลกระทบและขัดขวางการดำเนินงานของคุณได้ กฎหมายและข้อบังคับอาจเข้ามามีบทบาทด้วย ตัวอย่างเช่น กฎหมายเทศบาลอาจกำหนดข้อจำกัดในการเข้าถึงพื้นที่เฉพาะตามวันหรือเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ยังอาจจำกัดขนาดของยานพาหนะ อุโมงค์หรือสะพานตามแนวช่องทางจัดส่งอาจมีข้อจำกัดเรื่องความสูงหรือน้ำหนัก 

โปรดใช้เวลาในการวางแผนอย่างเหมาะสมและทำความเข้าใจสถานที่ตั้งคลังสินค้าเชิงกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณและลูกค้า ผลกระทบของการตัดสินใจครั้งนี้มีความสำคัญมากในการเช่าหรือซื้อเปิดโกดังที่ไหนสักแห่ง ที่ตั้งคลังสินค้าของคุณจะมีผลกระทบในระยะยาวต่อด้านการเงิน การดำเนินงาน และความสามารถในการแข่งขันของบริษัท สนใจโกดังสำเร็จรูปซื้อหรือเช่าโกดัง ติดต่อ ตวงธนานคร บริการโกดังให้เช่า โรงงานให้เช่า โกดังสำเร็จรูป และโรงงานสำเร็จรูป บนพื้นที่ริมถนนเพชรเกษม เป็นทำเลที่สะดวกในการคมนาคมมีการเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย และไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม มีความพร้อมสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งโรงพยาบาล ธนาคาร สถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า หรือโรงเรียน

ภายในโครงการได้ออกแบบอย่างลงตัว ทั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่ออกแบบเป็นแฝดคู่สามารถระบายอากาศได้ดีเยี่ยม แสงสว่างจากหน้าต่าง ช่องแสงรอบอาคาร อีกทั้งมีทางออกฉุกเฉิน รวมทั้งมีหอพักพนักงาน รวมไปถึงถนนของโครงการที่กว้างถึง 20 เมตร มีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ทำงานร่วมกับกล้องวงจรปิดภายในโครงการ เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ : https://www.tuangtana.com

ที่มาข้อมูล: https://crownlspgroup.com